![]() |
หน้าแรก พระเครื่อง บัตรรับรองพระแท้ ข่าวสาร บทความ เว็บบอร์ด เข้าชมร้านค้า |
![]() |
เข้าระบบร้านค้า
สถิติร้านค้า
ใบเซอร์พระ
รายละเอียดร้านค้า

ชื่อร้านค้า : | วัต ท่าพระจันทร์ |
ชื่อเจ้าของร้าน : | อนุวัต บูรณสัจจะ |
เงื่อนไขการรับประกัน : | แท้ มาตรฐาน. |
สถานที่ตั้ง : | ร้าน วัต ท่าพระจันทร์ พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ชั้น 3 ห้องที่ 42 |
แผนที่ : | ดูแผนที่ |
เบอร์โทร : | 081-911-5544 |
อีเมล์ : | watthaprachan@hotmail.com |
รายละเอียดเลขที่บัญชี : | ชื่อบัญชี อนุวัต บูรณสัจจะ ธนาคาร ธนาคารกสิกรไทย สาขา มาบุญครอง ประเภทบัญชี ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 7022529794 |
เว็บไซต์หน้าร้าน : | http://www.easyamulet.com/user.php?user=5544 |
ส่งข้อความถึงเจ้าของร้าน : | ส่งข้อความ |
จำนวนคนชม : | 3345624 คน |
หน้าแรก > วัต ท่าพระจันทร์ > ๑๔/๐๑/๒๕๖๖

๑๔/๐๑/๒๕๖๖
แหวนพิรอดหลวงพ่อม่วง
ผู้สร้าง : หลวงพ่อม่วง
ออกที่ : วัดบ้านทวน
ปี พ.ศ :
ราคาสินค้า : ขายแล้ว บาท
พระเครื่องถูกบูชาแล้ว
สอบถามเพิ่มเติม
เจ้าของพระ : คุณอนุวัต บูรณสัจจะ
เบอร์โทร. : 081-911-5544
จำนวนคนชมรายการนี้. : 344 คน.
แหวนพิรอดหลวงพ่อม่วง
ผู้สร้าง : หลวงพ่อม่วง
ออกที่ : วัดบ้านทวน
ปี พ.ศ :
ราคาสินค้า : ขายแล้ว บาท
พระเครื่องถูกบูชาแล้ว
สอบถามเพิ่มเติม
เจ้าของพระ : คุณอนุวัต บูรณสัจจะ
เบอร์โทร. : 081-911-5544
จำนวนคนชมรายการนี้. : 344 คน.
รายละเอียดสินค้า
#วันนี้วันเด็ก...วันดีๆแบบนี้ ก็ต้องมีสิ่งดีๆมาให้อ่าน มาให้ศึกษากัน
@>>>แหวนพิรอดหลวงพ่อม่วง วัดบ้านทวน วงนี้๑๐๐ปีขึ้น เก่าจนผ้าประเจียดจะกลายเป็นไม้สภาพโหดๆแบบนี้ มันส์แบบนี้ แล้วสมบูรณ์แบบนี้ ยังมีอีกไหม? สภาพทั้งมันส์ ทั้งโหดโครตสะใจ รักแดงแป๊ดแตกเป็นเกร็ดผ้าที่ฟั่นขึ้นถักทำเป็นแหวนเก่าจนมองกลายคล้ายเชือกแล้วแทบจะแปลสภาพเป็นไม้ หน้าพิรอดแหวนกว้างสวยงามขนาดวงด้านในเท่าเหรียญ ๕๐สตางค์รุ่นใหม่ใส่นิ้วนางของบุรุษได้พอดี ขนาดกำลังน่าพกน่าใช้ น่าสวมใส่เวลาออกนอกบ้าน หรือออกลุย "เพราะใส่ได้พอดีนิ้วแบบแบนราบสวยงาม แต่อนุรักษ์กันไว้เถอะ อย่าใส่เลย :)" (เส้นรอบวงด้านในขนาดเท่าเหรียญ ๕๐สตางค์ตามรูป) เป็นแหวนที่หลวงปู่ทำแจกจำนวนการสร้างไม่มากนัก รักแดงโหดๆเก่าๆแต่ยังมีสภาพสวยสมบูรณ์ สะใจครับ.
*****มงคลแขนแหวนพิรอด ของพระครูสิงคิคุณธาดา (หลวงพ่อม่วง จันทสโร) วัดบ้านทวน จ.กาญจนบุรี เป็นเครื่องรางที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดของเครื่องราง ที่นักสะสมเครื่องรางต่างก็ใฝ่ฝันที่จะได้มาไว้ในครอบครอง เพราะคนที่มีต่างก็หวงแหนเป็นอย่างยิ่ง
*****มงคลแขน และแหวนพิรอดของหลวงพ่อม่วง สร้างจากตำราโบราณ ท่านทำด้วยผ้าดิบตามตำราโบราณบันทึกไว้ว่าทำจากผ้าดิบห่อศพหรือผ้ามัดตราสังฆ์ นำมาตัดเป็นเส้นแล้วลงอักขระหมึกจีนที่ผ้าด้วยพระคาถาอิติปิโส มงคลฯ กับหัวใจพระธรรม ๗ คัมภีร์ ลงเดินหน้า ถอยหลัง กลับไปกลับมา เรียกว่าสงไปสงกลับ หรือสงกลับไปสงกลับมา ที่สมัยนี้นิยมเรียกลงอักขระสดุ้งกลับ คือกลับสิ่งเลวสิ่งร้ายให้กลายเป็นดี หรือที่ดีอยู่แล้วก็จะทำให้ดียิ่งๆขึ้น เมื่อใครอยากจะได้ก็จะไปขอให้ท่านเมตตาทำให้ ท่านก็จะพิจารณาทำให้เป็นรายบุคคลไป เมื่อทำเสร็จแล้ว หลวงปู่จะทดสอบความขลังในเวลาค่ำคืนอันเป็นเดือนมืดดึกสงัด ท่านจะก่อกองไฟทำพิธีแล้วท่านจะโยนมงคลแขน หรือแหวนพิรอดนั้นๆเข้าไปในกองไฟจนรุ่งเช้าท่านก็จะมาเขี่ยกองขี้เถ้าดู ถ้าวงใดที่ไหม้ไฟถือว่ายังใช้ไม่ได้ ถ้าวงใดไม่ไหม้ไฟก็ถือเป็นอันเสร็จใช้ได้ ท่านก็จะมอบให้แก่ผู้ที่มาขอไป ซึ่งบางคนกว่าจะได้ต้องรอนานหลายๆเดือน จนกว่าท่านจะมีเวลาทำให้ คนที่ได้นำไปใช้ต่างก็มีประสบการณ์กันมากมาย จึงเป็นที่นิยมเสาะหาพกพาติดตัวกันมากในหมู่คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ที่ได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลมาจนเป็นอย่างดี
*****อุปนิสัยของท่าน ท่านเป็นพระใจดีมีพรหมวิหารธรรม ใครได้พบได้สนทนาด้วย ก็รู้สึกอิ่มเอิบใจ ไม่ถือตัวถือชั้นวรรณะ เป็นกันเองแก่คนทั่วไป นอกจากเหรียญของท่านแล้ว ก็มีแหวนพิรอดนี่แหละที่ดังมากๆ จนมีคำที่ว่า "ของดีของขลังเมืองกาญจน์ ถ้ามีลูกอมวัดหนองบัว แหวนพิรอดวัดบ้านทวน มีใครก่อกวนไม่ต้องไปเกรงกลัวมัน" แหวนซึ่งดีทางคงกระพันชาตรี ก่อนจะแจกเอาใส่ในกองไฟ อันใหนไฟไม่ไหม้ จึงหยิบมาแจก นับว่าเป็นพระเถระ ที่มีวิทยาอาคมสูง และใช้อาคมได้แกล่งกล้ามาก
*****ขอเอ่ยถึงแหวนหลวงปู่ยิ้ม พ่อเฒ่ายิ้ม อาจารย์ใหญ่แห่งวัดหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ได้รู้ลึกเข้าไปถึงตำรับการสร้างแหวน...ท่านสร้างจากตำราโบราณ เช่นเดียวกันกับกำไลแขนแหวนพิรอดวัดบ้านทวน ตามตำราโบราณบันทึกไว้ว่าทำจากผ้าดิบห่อศพ หรือผ้ามัดตราสังฆ์ เป็นการใช้ผ้าสูตรเดียวกับของหลวงพ่อม่วงแห่งวัดบ้านทวน แต่เอกลักษณ์การขึ้นถักทำรูปแหวนแตกต่างกัน น่าจะมาจากการแลกเปลี่ยนวิชากันของพระเถราจารย์ทั้งสองท่าน เพราะทั้งสองเป็นพระเถราจารย์ร่วมรุ่น ร่วมยุค ร่วมสมัย และโด่งดังเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ทั้งสองท่านถือว่าเป็นที่สุดของ จ.กาญจนบุรี เกี่ยวกับปี พ.ศ. ที่ควรรู้!
*****"หลวงพ่อม่วงเกิด พ.ศ.๒๓๖๖ , หลวงปู่ยิ้มเกิด พ.ศ.๒๓๘๗" หลวงพ่อม่วงมีอายุมากกว่าหลวงปู่ยิ้ม ๒๑ปี และปีที่หลวงปู่ยิ้มเกิด คือปีที่หลวงพ่อม่วงอุปสมบท คือปี พ.ศ.๒๓๘๗_คนโดยส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดคิดว่าหลวงปู่ยิ้มมีอายุมากกว่าหลวงพ่อม่วง คงเนื่องมาจากคำนำหน้าที่ใช้เรียกตัวท่าน จึงลงปีเกิดมาเพื่อเป็นความรู้เล็กๆมาแบ่งปันกันครับ
*****ต้นตำรับตำรา อันตำราทำแหวนพิรอดถักนี้เป็นของโบราณ สืบแต่แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมัยนั้นในราชสำนักมีอาจารย์ฆราวาสชื่อดัง ๒ คน คือ พระวิชาจารย์มนตรี(อาจารย์ชาตรี) กับหลวงราชปรีชาหาญ(อาจารย์พิรอด)"น่าจะเป็นที่มาของชื่อแหวน(ความเห็นส่วนตัว_วัต ท่าพระจันทร์)" อาจารย์ ๒ คนนี้เคยไปกับ พระวิสูตรสุนทร(ปาน)หรือโกษาปาน ถึงประเทศฝรั่งเศส และได้ลองวิชาอาคมให้พระเจ้าหลุยส์ ประเทศฝรั่งเศสเป็นที่พอพระทัยมาก ได้รับรางวัลกลับเมืองไทยมากมาย
หลวงพ่อม่วง(พระครูสิงคิคุณธาดา) บำรุงศาสนกิจมาด้วยความเรียบร้อย ท่านไม่เคยเจ็บป่วยออดแอด แต่พอชรามากก็หนีกฎธรรมดาไม่พ้น ได้ถึงมรณภาพด้วยโรคชรา สิริอายุได้ ๘๙ ปี ได้ทิ้งคุณงามความดีไว้เป็นที่ร่ำลือมาจนทุกวันนี้.
*****พระคาถาบูชาการใช้
"โอมพระพิรอด ขอดพระพินัย_หัวใจพระคาถาเมื่อสวมใส่หรือพกพา"
"โอมพระพินัย คลายพระพิรอด_หัวใจพระคาถา เมื่อถอดออก"
เป็นความรู้ที่ควรค่าต่อการจดจำ_วัต ท่าพระจันทร์? (กรุณานำบทความออกไปพร้อมเครดิต)
*****มงคลแขนแหวนพิรอด ของพระครูสิงคิคุณธาดา (หลวงพ่อม่วง จันทสโร) วัดบ้านทวน จ.กาญจนบุรี เป็นเครื่องรางที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดของเครื่องราง ที่นักสะสมเครื่องรางต่างก็ใฝ่ฝันที่จะได้มาไว้ในครอบครอง เพราะคนที่มีต่างก็หวงแหนเป็นอย่างยิ่ง
*****มงคลแขน และแหวนพิรอดของหลวงพ่อม่วง สร้างจากตำราโบราณ ท่านทำด้วยผ้าดิบตามตำราโบราณบันทึกไว้ว่าทำจากผ้าดิบห่อศพหรือผ้ามัดตราสังฆ์ นำมาตัดเป็นเส้นแล้วลงอักขระหมึกจีนที่ผ้าด้วยพระคาถาอิติปิโส มงคลฯ กับหัวใจพระธรรม ๗ คัมภีร์ ลงเดินหน้า ถอยหลัง กลับไปกลับมา เรียกว่าสงไปสงกลับ หรือสงกลับไปสงกลับมา ที่สมัยนี้นิยมเรียกลงอักขระสดุ้งกลับ คือกลับสิ่งเลวสิ่งร้ายให้กลายเป็นดี หรือที่ดีอยู่แล้วก็จะทำให้ดียิ่งๆขึ้น เมื่อใครอยากจะได้ก็จะไปขอให้ท่านเมตตาทำให้ ท่านก็จะพิจารณาทำให้เป็นรายบุคคลไป เมื่อทำเสร็จแล้ว หลวงปู่จะทดสอบความขลังในเวลาค่ำคืนอันเป็นเดือนมืดดึกสงัด ท่านจะก่อกองไฟทำพิธีแล้วท่านจะโยนมงคลแขน หรือแหวนพิรอดนั้นๆเข้าไปในกองไฟจนรุ่งเช้าท่านก็จะมาเขี่ยกองขี้เถ้าดู ถ้าวงใดที่ไหม้ไฟถือว่ายังใช้ไม่ได้ ถ้าวงใดไม่ไหม้ไฟก็ถือเป็นอันเสร็จใช้ได้ ท่านก็จะมอบให้แก่ผู้ที่มาขอไป ซึ่งบางคนกว่าจะได้ต้องรอนานหลายๆเดือน จนกว่าท่านจะมีเวลาทำให้ คนที่ได้นำไปใช้ต่างก็มีประสบการณ์กันมากมาย จึงเป็นที่นิยมเสาะหาพกพาติดตัวกันมากในหมู่คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ที่ได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลมาจนเป็นอย่างดี
*****อุปนิสัยของท่าน ท่านเป็นพระใจดีมีพรหมวิหารธรรม ใครได้พบได้สนทนาด้วย ก็รู้สึกอิ่มเอิบใจ ไม่ถือตัวถือชั้นวรรณะ เป็นกันเองแก่คนทั่วไป นอกจากเหรียญของท่านแล้ว ก็มีแหวนพิรอดนี่แหละที่ดังมากๆ จนมีคำที่ว่า "ของดีของขลังเมืองกาญจน์ ถ้ามีลูกอมวัดหนองบัว แหวนพิรอดวัดบ้านทวน มีใครก่อกวนไม่ต้องไปเกรงกลัวมัน" แหวนซึ่งดีทางคงกระพันชาตรี ก่อนจะแจกเอาใส่ในกองไฟ อันใหนไฟไม่ไหม้ จึงหยิบมาแจก นับว่าเป็นพระเถระ ที่มีวิทยาอาคมสูง และใช้อาคมได้แกล่งกล้ามาก
*****ขอเอ่ยถึงแหวนหลวงปู่ยิ้ม พ่อเฒ่ายิ้ม อาจารย์ใหญ่แห่งวัดหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ได้รู้ลึกเข้าไปถึงตำรับการสร้างแหวน...ท่านสร้างจากตำราโบราณ เช่นเดียวกันกับกำไลแขนแหวนพิรอดวัดบ้านทวน ตามตำราโบราณบันทึกไว้ว่าทำจากผ้าดิบห่อศพ หรือผ้ามัดตราสังฆ์ เป็นการใช้ผ้าสูตรเดียวกับของหลวงพ่อม่วงแห่งวัดบ้านทวน แต่เอกลักษณ์การขึ้นถักทำรูปแหวนแตกต่างกัน น่าจะมาจากการแลกเปลี่ยนวิชากันของพระเถราจารย์ทั้งสองท่าน เพราะทั้งสองเป็นพระเถราจารย์ร่วมรุ่น ร่วมยุค ร่วมสมัย และโด่งดังเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ทั้งสองท่านถือว่าเป็นที่สุดของ จ.กาญจนบุรี เกี่ยวกับปี พ.ศ. ที่ควรรู้!
*****"หลวงพ่อม่วงเกิด พ.ศ.๒๓๖๖ , หลวงปู่ยิ้มเกิด พ.ศ.๒๓๘๗" หลวงพ่อม่วงมีอายุมากกว่าหลวงปู่ยิ้ม ๒๑ปี และปีที่หลวงปู่ยิ้มเกิด คือปีที่หลวงพ่อม่วงอุปสมบท คือปี พ.ศ.๒๓๘๗_คนโดยส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดคิดว่าหลวงปู่ยิ้มมีอายุมากกว่าหลวงพ่อม่วง คงเนื่องมาจากคำนำหน้าที่ใช้เรียกตัวท่าน จึงลงปีเกิดมาเพื่อเป็นความรู้เล็กๆมาแบ่งปันกันครับ
*****ต้นตำรับตำรา อันตำราทำแหวนพิรอดถักนี้เป็นของโบราณ สืบแต่แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมัยนั้นในราชสำนักมีอาจารย์ฆราวาสชื่อดัง ๒ คน คือ พระวิชาจารย์มนตรี(อาจารย์ชาตรี) กับหลวงราชปรีชาหาญ(อาจารย์พิรอด)"น่าจะเป็นที่มาของชื่อแหวน(ความเห็นส่วนตัว_วัต ท่าพระจันทร์)" อาจารย์ ๒ คนนี้เคยไปกับ พระวิสูตรสุนทร(ปาน)หรือโกษาปาน ถึงประเทศฝรั่งเศส และได้ลองวิชาอาคมให้พระเจ้าหลุยส์ ประเทศฝรั่งเศสเป็นที่พอพระทัยมาก ได้รับรางวัลกลับเมืองไทยมากมาย
หลวงพ่อม่วง(พระครูสิงคิคุณธาดา) บำรุงศาสนกิจมาด้วยความเรียบร้อย ท่านไม่เคยเจ็บป่วยออดแอด แต่พอชรามากก็หนีกฎธรรมดาไม่พ้น ได้ถึงมรณภาพด้วยโรคชรา สิริอายุได้ ๘๙ ปี ได้ทิ้งคุณงามความดีไว้เป็นที่ร่ำลือมาจนทุกวันนี้.
*****พระคาถาบูชาการใช้
"โอมพระพิรอด ขอดพระพินัย_หัวใจพระคาถาเมื่อสวมใส่หรือพกพา"
"โอมพระพินัย คลายพระพิรอด_หัวใจพระคาถา เมื่อถอดออก"
เป็นความรู้ที่ควรค่าต่อการจดจำ_วัต ท่าพระจันทร์? (กรุณานำบทความออกไปพร้อมเครดิต)
พระเครื่องอื่น ๆ ในหมวด
-
๗/๐๖/๒๕๕๒
ราคา : พระโชว์! บาท
จำนวนหน้า [ 1 ] [ 2 ] [ 3 ] [ 4 ] [ 5 ] |